คามคืบหน้ากรณีที่ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ร้องเรียนว่า ลูกบ้านเป็นหญิง วัย 59 ปี ถูกลูกชาย อายุ 33 ปี ที่แม่ส่งเสียไปเรียนต่างประเทศ กลับมาอาศัยอยู่ด้วยประมาณ 2 ปี รีดไถเงินเพื่อไปใช้จ่ายส่วนตัว และเล่นพนันออนไลน์ โดยตัวเองไม่ทำงานทำการ และหนักข้อเริ่มบังคับให้แม่ทำทรัพย์สินในบ้านไปขายเพื่อหาเงินมาเล่นพนันออนไลน์ พอหมดหนทางเริ่มบังคับให้แม่ไปยืมเงินชาวบ้านจนติดหนี้สินไปทั่ว หนักข้อขึ้นเริ่มมีการทำร้ายร่างกายแม่ตนเองมาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา ลูกชายยังก็ทำร้ายร่างกายแม่อย่างหนัก จนบอบช้ำไปทั้งร่าง แม่ทนไม่ไหว ตัดสินใจทำร้ายตัวเองหวังจบชีวิต จนหมดสติ ลูกชายมาพบกลัวความผิดจึงเรียกกู้ภัยเข้าช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล อาการสาหัส ซี่โครงหัก 4 ซี่ ปอดฉีก มีเลือดออกในสมอง เบ้าตาแตกยับเยินทั้งตัว ตัวลูกชายก็เก็บตัวอยู่ในบ้าน ทางผู้ใหญ่บ้านได้เข้าแจ้งความให้ตำรวจ สภ.สันทรายเข้าดำเนินคดี
จนล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (29 สค.) ตำรวจ สภ.สันทรายได้เข้าควบคุมตัวลูกชายไปสอบปากคำ ก่อนที่จะแจ้งข้อหา 2 ข้อหา “ทำร้ายบุพการี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส” โดยทำได้ร้ายถึงสองครั้ง ต่างกรรมต่างวาระ ผู้ต้องหาสารภาพ และแม่ของผู้ต้องหาก็ยอมแจ้งความดำเนินคดีกับลูกแล้ว
พ.ต.อ.สัมพันธ์ ศิริมา ผกก สภ สันทราย ได้เปิดเผยว่า ครอบครัวนี้พ่อแม่แยกทางกัน น้องสาวก็ได้ซื้อบ้านให้กับแม่อยู่ส่วนตัวผู้ต้องหาก็เป็นนักเรียนนอก จบการศึกษาก็เที่ยวไปมาที่บ้านแห่งนี้ สุดท้ายก็กลับมาอยู่กลับแม่ที่บ้านแห่งนี้ มีอาการซึมเศร้า ครอบครัวนี้เมื่อก่อนมีฐานะดี ตอนหลังเริ่มมีปัญหา ผู้ต้องหาติดพนันออนไลน์ ทางตำรวจได้หลักฐานจากมือถือของผู้ต้องหาเอง ตรวจฉี่แล้วไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด
ทั้งนี้ช่วงสายวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันทราย ได้นำตัว ผู้ต้องหาออกจากห้องคุมขังแล้วควบคุมตัวนำส่งไปส่งฟ้องและฝากขังที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ โดยระหว่าง ที่ถูกควบคุมตัวขึ้นรถคุมขังนั้นทางผู้ต้องหา ได้กล่าวว่า ยอมรับว่าได้ก่อเหตุทำร้ายแม่และรู้สึกสำนึกผิด กับสิ่งที่ได้กระทำลงไป แต่อ้างว่าไม่ได้ตั้งใจ
ขณะที่ ร้อยตำรวจตรีหญิง มนต์ริสสา บุญก้ำ พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี เปิดเผยว่า วันนี้ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา ส่งฟ้องและฝากขังที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาทำร้ายบุพการีเป็นเหตุให้ได้รับ อันตรายสาหัสและกระทำความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งในชั้นพนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้ประกันตัว และยื่นคำร้องคัดค้านประกันตัวในชั้นศาลด้วย ทั้งนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าก่อเหตุจริง แต่ทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบและรู้สึกสำนึกผิด ซึ่งตามคำให้การของผู้ต้องหา คาดว่าน่าจะเคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้เป็นแม่มาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งนี้หนักและรุนแรงที่สุด ส่วนสาเหตุ ที่ต้องการเงินนั้น อ้างว่าต้องการนำเงินไปชำระหนี้สินและใช้จ่ายส่วนตัว รวมทั้งหนี้การพนันด้วย แต่ไม่มีประวัติเรื่องยาเสพติด
นอกจากนี้พนักงานสอบสวนเปิดเผยได้ว่า ในช่วงการสอบปากคำ ผู้ต้องหานั้นช่วงแรกผู้ต้องหายังมีท่าทีที่แข็งกร้าวเหมือนแบ่งรับแบ่งสู้จะรับผิด ซึ่งยังมีการให้ปากคำกับตำรวจว่าแม่ก็เป็นผู้ที่ทำร้ายตนเองด้วย และโมโหและทำร้ายแม่กลับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเปิดเพลงค่าน้ำนมให้กับผู้ต้องหาฟัง เพื่อที่จะได้ระลึกถึงบุพการี และสำนึกว่าสิ่งที่ทำกับแม่ผู้ให้กำเนิดนั้นไม่ถูกต้อง ซึ่งหลังจากที่ฟังเพลงไปได้ระยะหนึ่งผู้ต้องหา มีท่าทีสำนึกผิดอย่างมาก และได้หลั่งน้ำตาร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ และสำนึกถึงบุญคุณของแม่ และสิ่งที่กระทำลงไปกับแม่
ส่วนอาการของแม่ล่าสุดแม้อาการจะดีขึ้น แต่ยังต้องอยู่ในห้องไอซียู โดยมีแพทย์ดูแลใกล้ชิด และงดเยี่ยม เช้านี้ตำรวจยังคุมตัวผู้ต้องหาไว้ที่ สภ.สันทราย และมีการสอบปากคำเพิ่มเติมคาดว่าวันนี้จะนำตัวไปฝากขังต่อศาลเพื่อดำเนินคดีต่อไป
